ประวัติวันสงกรานต์ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เกิดขึ้นเมื่อไร แล้วทำไมต้องมีการละเล่นสาดน้ำ
ที่มาของชื่อ "สงกรานต์":คำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า "การเคลื่อนย้าย" ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษ อันเป็นช่วงเวลาที่ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินสุริยคติไทยโบราณ
ประวัติความเป็นมา:ประเพณีสงกรานต์ได้รับอิทธิพลจากเทศกาลโฮลีของอินเดีย ซึ่งมีการสาดน้ำเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีและขอพร
ในประเทศไทย สงกรานต์แต่เดิมถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยตามปฏิทินจันทรคติ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้วันที่ 1 มกราคมตามแบบสากลในปี พ.ศ. 2484
โดยแต่เดิมวันสงกรานต์ไม่ระบุวันที่แน่นอน แต่จะคำนวณตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ คือเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษเมื่อใด ก็ถือเป็นวันสงกรานต์
ต่อมาในปี พ.ศ. 2483 ได้มีการประกาศให้วันที่ 1 เมษายน ของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นวันที่ 13,14 และ 15 เมษายน ดังเช่นปัจจุบัน
การละเล่นสาดน้ำ:การสาดน้ำในวันสงกรานต์มีหลายความหมายเป็นการแสดงความเคารพและขอพรจากผู้ใหญ่ โดยการรดน้ำลงบนมือของผู้ใหญ่
เป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีและเสริมสิริมงคล
เป็นการคลายร้อนในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดของปี และเป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานและสามัคคีในชุมชน
วันสำคัญในเทศกาลสงกรานต์: วันที่ 13 เมษายน: วันมหาสงกรานต์
- วันที่ 14 เมษายน: วันเนา
- วันที่ 15 เมษายน: วันเถลิงศก
วันสงกรานต์จึงเป็นประเพณีที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและสังคมไทย เป็นช่วงเวลาแห่งการแสดงความกตัญญู ความรัก ความปรารถนาดี และความสามัคคีในชุมชน